ตำนานที่ยังหายใจ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก

มวยไทยออนไลน์

ตำนานที่ยังหายใจ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก

กีฬามวยถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบ้านเรามาตั้งแต่ในอดีตจนมาถึงปัจจุบัน และกีฬามวยก็ถือเป็นกีฬาที่เชิดหน้าชูตาให้กับประเทศเราเป็นอย่างมาก แน่นอนครับศิลปะมวยไทยถือว่าเป็นศิลปะป้องกันตัวที่มีมาอย่างยาวนานและเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของเรา แต่การที่เราจะได้รับการยอมรับจากประเทศสากลแล้วก็ต้องบอกว่ากีฬามวยไทยไม่ได้บรรจุอยู่ในกีฬาสากล แต่เราก็ยังทำได้ดีในกีฬามวยสากลสมัครเล่น วันนี้เราจะย้อนอดีตไปพบกับยอดมวยที่มีคำพูดติดปากว่า “ไม่ได้โม้”

ก้าวแรกของ สมรักษ์ คำสิงห์นักกีฬาเหรียญทองทีมชาติไทยคนแรกในโอลิมปิก

สมรักษ์ คำสิงห์ หรือ บาส เป็นชาวอีสาน ที่เกิดในหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านไผ่ ในจังหวัดขอนแก่น เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พศ. 2516 ครอบครัวของบาสเป็นครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ บาสเป็นบุตรคนกลางจากบุตรทั้งหมด 3 คน ของพ่อแดง และแม่ประยูร คําสิงห์ ก้าวแรกในการเริ่มชกมวยของ สมรักษ์ คำสิงห์ อยู่ในช่วงประถม เนื่องจากบาสมีพ่อที่เคยเป็นอดีตนักมวยเก่าทำให้ได้รับการฝึกมวยมาตั้งแต่เด็กๆ และเมื่อมีอายุได้ 7 ขวบเท่านั้นเองบาสได้เริ่มตระเวนชกมวยครั้งแรกตามงานวัดต่างๆ และผลงานได้เข้าไปเตะตาของณรงค์ กองณรงค์ หัวหน้าค่ายมวยณรงค์ยิม บาส จึงได้ฉายามวยครั้งแรกว่า สมรักษ์ ณรงค์ยิม และเริ่มต่อยมวยจนมีชื่อเสียงในแถบจังหวัดขอนแก่น

เกิดการแตกคอกันระหว่างพ่อของบาส และเจ้าของค่ายมวยณรงค์ยิม

เป็นจุดเปลี่ยนครั้งแรกของการชกมวยไทยของสมรักษ์ คำสิงห์ เนื่องจากพ่อแดง และ ณรงค์ กองณรงค์หัวหน้าค่ายมวยณรงค์ยิมได้มีปัญหาแตกคอกัน บาสจึงได้เปลี่ยนค่ายมวยเป็นครั้งแรกมาอยู่กับค่ายศิษย์อรัญ โดยเข้าเรียนในโรงเรียนผะดุงศิษย์พิทยา และก็เริ่มเข้ามาตระเวนชกมวยในกรุงเทพฯ ทั้งมวยไทยและมวยสากลสมัครเล่น และได้รับฉายามวยไทยใหม่ว่า “พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ” จนเมื่อสมรักษ์ คำสิงห์เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พ่อแดง คำสิงห์ได้ถึงแก่กรรม สมรักษ์คำสิงห์ได้ตระเวนชกมวยไทยตามเวทีมวยต่างๆ ต้นฝีมือและพัฒนามากขึ้นและได้มีโอกาสขึ้นชกกับนักมวยดังๆ ในยุคนั้น อย่าง ชาติชายน้อย ชาวไร่อ้อย , ช้างน้อย ศรีมงคล , บัวขาว ป.พิสิทธ์เชษฐ์ และอีกหลายคน แต่ไม่เคยได้แชมป์ในรายการมวยไทย จนกระทั่งในปี พศ. 2538 สมรักษ์ คำสิงห์ได้ขึ้นชกมวยไทยครั้งสุดท้ายและชนะน็อค สุวิทย์เล็ก ส.สกาว ในยกที่ 4 หลังจากนั้นได้หันมาเอาดีทางด้านมวยสากลสมัครเล่นอย่างจริงจัง ค่าตัวของสมรักษ์ คำสิงห์ในการชกมวยไทยที่แพงที่สุดในขณะนั้นคือ 180,000 บาท ถือได้ว่าเป็นนักมวยเงินแสนอีกคนเลยก็ว่าได้

สมรักษ์ คำสิงห์ ติดทีมชาติครั้งแรก

สมรักษ์ คำสิงห์ นั้นได้ก้าวขึ้นติดทีมชาติครั้งแรกในปี พศ. 2535 และจิดทัพร่วมกีฬาโอลิมปิกที่บาร์เซโลน่าในปี พศ. 2536 ในรุ่นเฟเธอร์เวท รายการแข่งขันรอบแรกนั้น สมรักษ์ คำสิงห์ เอาชนะ ไมค์ สแตรงค์ จาก แคนาดา แต่มาตกรอบด้วยน้ำมือของนักมวยเจ้าภาพ ฟาอุสติโน่ เรเยส จาก สเปน ในปี พศ . 2537 สมรักษ์คำสิงห์ได้ติดธงทีมชาติไทยอีกครั้งเข้าร่วมกีฬาเอเชียนเกมส์ที่ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น และเป็นนักกีฬาไทยคนเดียวที่คว้าเหรียญทองในรายการนี้มาครองได้ โดยต่อมาในภายหลังนั้นทางสภาโอลิมปิคของเอเชียได้มีการกลับคำตัดสินใหม่โดยให้ “ฉลามนุ๊ก” รัฐพงศ์ ศิริสานนท์ นักกีฬาว่ายน้ำของไทยได้เหรียญทองไปครองเพิ่มอีกสองเหรียญด้วยกัน

เหรียญทองประวัติศาสตร์ในโอลิมปิกเกมส์ 

และในโอลิมปิกเกมส์ที่ แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา สมรักษ์ คำสิงห์ได้มีโอกาสติดทีมชาติอีกครั้ง ในรอบแรกสมรักษ์ คำสิงห์นั้นได้พบกับนักชกชาวเปอร์โตริโก้ ดาเนี่ยล เซต้า และเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 13 ต่อ 2 รอบที่สองชนะนักชกชาวแอฟริกาใต้ ฟิลิป เอ็นดู ไปได้ด้วยคะแนน 12 ต่อ 7 รอบก่อนรองชนะเลิศเอาชนะนักชกจากรัสเซียไปได้ด้วยคะแนน 13 ต่อ 4 รอบกรองชนะเลิศยำใหญ่ใส่ พาพาโบล ชาคอน นักชกชาวอาร์เจนติน่าไปได้ด้วยคะแนน 20 ต่อ 8 และในครั้งนี้ตัวเขาสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศของกีฬามวยสากลสมัครเล่นและได้ไปเจอกับนักชกชาวบัลแกเรีย เซราฟิม โทโรดอฟ และเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 8 ต่อ 5 คะแนน เป็นนักกีฬาคนแรกของประเทศที่คว้าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกมาครองได้สำเร็จ และหลังจากนั้นก็ได้รับการตอบรับจากชาวไทยมากมาย จนมีงานแสดง และงานโฆษณา เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นประวัติคร่าวๆ ของนักกีฬาเหรียญทองประวัติศาสตร์ขอทีมชาติไทยคนแรก ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก สมรักษ์คำสิงห์ถือเป็นมวยเชิงดีที่นานๆ จะมีให้เห็นสักทีนึง และเป็นตัวอย่างให้กับนักมวยรุ่นหลังในการเอาแบบอย่างการชกมวยที่มีระเบียบวินัยและความมุ่งมั่น สำหรับวงการมวยนั้นถึงแม้จะมีนักกีฬามวยไทยมวยสากลอีกมากมายภายในประเทศที่ทำผลงานได้ดี แต่ที่แน่ๆ คนไทยจะต้องไม่ลืมนักกีฬาที่ชื่อ สมรักษ์ คำสิงห์ อย่างแน่นอน

ใส่ความเห็น